fbpx

มาดูกันว่าเรื่องอะไรบ้างที่ผู้สมัคร Top Candidate ไม่ควรพูดระหว่างสัมภาษณ์งาน

สัมภาษณ์งาน

พบกับประโยคที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตราย แต่เชื่อหรือไม่ว่า นายจ้างหรือ HR ยกธงแดงไม่รับทันที! มาดูกันดีกว่าว่า วลี ไหนบ้างที่พวกคุณไม่ควรเอ่ยระหว่างถูกสัมภาษณ์งาน!

จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้ว่า ควรพูดอะไรหรือไม่ควรพูดอะไรเวลาโดนสัมภาษณ์งาน เพราะจากประโยคที่พูดโดยไม่คิดอะไรของคุณนั้น จะสามารถบอกถึงทัศนคติการทำงานได้ทันที

ฉันชอบโซโล่เดี่ยว / ฉันชอบที่จะทำงานคนเดียว / ฉันถนัดทำงานคนเดียว :

สัมภาษณ์งาน

เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องพึ่งพาตัวเอง หรือเติบโตมากับองค์กรที่มีการทำงานแบบหน้าที่ใครหน้าที่มัน แต่บางครั้งการที่คุณไม่สามารถสื่อสาร ไม่สามารถประสานงาน และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเติบโตมากกว่านี้ ทุกอย่างจะกองอยู่ที่คุณจนงานที่ควรเสร็จได้ตามระยะเวลา หรืองานที่ควรละเอียดได้มากกว่านี้ อาจไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ จนส่งผลต่อผลงานในภาพรวม คุณจะกลายเป็นคนที่ไม่ไว้ใจทีมงาน ทั้งที่การทำงานเป็นทีมนั้นต้องมีความไว้ใจกันในแต่ละหน้าที่ เพื่อที่จะได้มีเวลาเอาตัวเองไปให้ความสำคัญกับงานของตัวเอง กลายเป็นว่าคุณต้องพะวงกับทุกส่วน หรือการที่คุณจะกลายเป็นคนที่สนใจแต่ในส่วนของตัวเองไม่สนใจ kPI ของทีม

ฉันค่อนข้าง OCD หน่อยๆ / ฉันเป็น Perfectionism :

Perfectionismพฤติกรรม Perfectionism นั้นมีความใกล้กับอาการย้ำคิดย้ำทำหรือ Obsessive Compulsive Disorder (OCD) นั่นอาจส่งผลให้งานทั้งหมดนั้นล่าช้า ไม่เสร็จเพราะจะเสียเวลาไปกับความคิดหรือพฤติกรรมค่อนข้างมากในแต่ละวัน (มากกว่า 1 ชั่วโมงขึ้นไป)

เพราะฉะนั้นอย่าพูดว่าคุณเป็น ‘OCD’ แต่ให้เปลี่ยนเป็นการสื่อสารว่าคุณเป็นคนละเอียดและมีระเบียบมากแทน

ฉันอยากรู้เกี่ยวกับวันหยุดและการลาพักร้อน :

หากคุณยังไม่ได้รับการว่าจ้างคุณไม่ควรถามเกี่ยวกับเวลาและความถี่ที่คุณจะหยุด นายจ้างและฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ต้องการเห็นความกระตือรือร้นเกี่ยวกับงานที่คุณกำลังทำอยู่

ฉันออกจากงานเพราะบริษัทเก่า / เกลียดงานที่ทำอยู่ / เจ้านายของฉันแย่ที่สุด :

สิ่งสำคัญคืออย่าพูดถึงเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับบทบาทที่ผ่านมาหรือเกี่ยวกับทีม แต่ให้พูดถึงสาเหตุที่อยากเริ่มต้นบทบาทใหม่ เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะพูดจาดไม่ดีถึงบทบาทเก่า นั่นทำให้คุณดูเด็ก และไม่มืออาชีพ เพราะการสัมภาษณ์งานคุณจะถูกประเมินอารมณ์ ไหวพริบในการตอบคำถาม และวุฒิภาวะ

บางทีคุณอาจจะเกลียดงานของคุณ เกลียดหัวหน้างาน เกลียดสังคมในออฟฟิสเก่า แต่แทนที่จะต้องอธิบายแบบนั้นก็แค่เปลี่ยนไปว่า คุณกำลังแสวงหาโอกาสให้ในการทำงาน และพูดในสิ่งที่ชอบที่เกี่ยวข้องกับบทบาทปัจจุบันของคุณ โดยตท้ายเข้ากับความปราถนาท่ะได้ทำบทบาทใหม่ ซึ่งเป็นความสนใจเพื่อการเรียนรู้มากขึ้น เพื่อจะได้รับความท้าทายใหม่หรือขยายทักษะในวิชาชีพ

อย่าบอกว่าหน้าที่ใหม่ที่คุณกำลังสมัครเป็นสิ่งที่ไม่ท้าทายและไม่น่าตื่นเต้น :

เชื่อหรือไม่ว่าเราเคยสัมภาษณ์งานคนหนึ่ง แล้วเขาบอกกับพวกเราว่า เขาไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรือคิดว่าตำแหน่งนี้ยากอะไร

มันไม่สำคัญว่าคุณจะรู้สึกท้าทายหรืองานนั้นจะง่ายแค่ไหน แต่คุณควรแสดงความตื่นเต้นสำหรับบทบาทใหม่ เพราะสิ่งนั้นเป็นอารมณ์ที่แสดงว่าคุณอยากทำงานนั้นจริงๆ

ตอบข้อเสียที่ไม่ใช่ข้อเสียจริงๆ :

คำถามที่ต้องโดนถามทุกคน อย่างจุดอ่อนหรือข้อเสียของคุณคืออะไร? ซึ่งถ้าคุณตอบตามจริงมันก็ดูเสี่ยงจะชวดงาน เพราะฉะนั้นให้ตอบข้อเสียพร้อมสิ่งที่คุณกำลังปรับปรุงหรือหนทางแก้ไขข้อเสียนั้นๆ เช่น ข้อเสียของคุณคือการที่ทำอะไรช้า ก็บอกไปว่าผมมีการแก้ไขด้วยการวางเดดไลน์และทำงานแบบ Schedule เป็นต้น

อย่าโกหก : 

อย่าโกหกในสิ่งที่คุณทำไม่ได้ ไม่เคยทำ หรือไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญจริงๆ แม้จะทำให้คุณดูต่างจากผู้สมัครคนอื่น เพราะเรื่องโกหกมันจะกลายเป็นเรื่องหลอกหลอนคุณ ถ้าคุณได้งาน เช่น คุณใช้โปรแกรมบางอย่างเป็นหรือคุ้นเคยดีกับแพลตฟอร์มโฆษณาของโซเชียลมีเดีย ถ้าความจริงออกมาในภายหลังว่าไม่ใช่

เพราะฉะนั้นถ้าโดนถามคำถามประมาณนี้ให้เปลี่ยนไปตอบสิ่งที่คุณเคยทำ หรือให้เปลี่ยนเป็นบอกว่า “ฉันไม่คุ้นเคยกับสิ่งนั้น แต่ฉันมีประสบการณ์ใน … ”  และกล่าวด้วยว่าคุณตื่นเต้นแค่ไหนที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพิ่มเติม

อย่าตอบว่าไม่มีคำถามเมื่อถูกถามว่ามีคำถามไหม :

หากคุณอยากได้งานนั้น คุณจะอยากรู้รายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับงานที่คุณต้องทำ การไม่ถามคำถามหมายความว่าคุณไม่สนใจรายละเอียดงานและสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์ได้คุยกับคุณไปก่อนหน้านี้  คุณต้องเตรียมคำถามสุดท้าย ถามคำถามปลายเปิดตามสิ่งที่คุณรู้เกี่ยวกับผู้สัมภาษณ์ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมของบริษัท หรือสถานะในทีมของคุณ นี่จะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับคุณและมันจะช่วยให้คุณจบการสัมภาษณ์แทนคำว่า “แล้วจะติดต่อกลับไปนะครับ”

 

รู้จักเรามากขึ้น

ใบรับรองคุณวุฒิ Digital Marketing Certificate โดย ICDL Thailand by DBC คือ โอกาสที่ดีที่สุด สำหรับนักการตลาดออนไลน์มืออาชีพ ที่เป็นหนึ่งในเครื่องหมาย (Signal) ให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (Human Resource) ของบริษัทชั้นนำทั่วโลก รวมถึงบริษัทระดับขนาดกลางขนาดย่อมใช้ นอกเหนือจากเครื่องหมาย (Signal) อื่น อย่างเช่น สถาบันการศึกษา และระดับปริญญา เพื่อเลือก The Best Candidate เข้ามาทำงาน

มาค้นพบคำตอบว่า คุณคือตัวจริง แค่ไหนในสายงาน Digital Marketing ด้วยมาตรฐานครอบคลุมทักษะที่สำคัญและแนวคิดหลักการที่เกี่ยวข้องกับการตลาดดิจิทัล อาทิ Marketing Concept, Web Presence, Social Media Setup, Social Media Management, Online Marketing and Advertising, Analytics ฯลฯ

เพราะความรู้และสุขภาพ คือ การลงทุนที่จะไม่มีใครแย่งไปจากคุณได้ อย่าลืมว่าตัวคุณคือสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุด

นำหน้าคนอื่นก่อนใคร

ด้วย โอกาส’ ที่ดีกว่าเดิม

 

About Post Author