Algorithm (อัลกอริทึม) แต่ละ Search Engine จะมีระบบให้คะแนนเว็บไซต์ที่แตกต่างกันและจะมีการอัพเดตอยู่เสมอๆ เพื่อคัดกรองเว็บไซต์ที่ไม่มีคุณภาพ
เพื่อให้ผลการค้นหานั้นตรงตามที่ผู้ใช้งานต้องการมากที่สุด เราจึงจำเป็นต้องสร้างเว็บไซต์ให้มีคุณภาพตาม Algorithm เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำอันดับได้ดีที่สุด
ปัจจัยภายใน (On–page / Micro)
การปรับแต่งตัวเว็บไซต์และเนื้อหาภายในเว็บไซต์เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการทำ SEO ให้ติดอันดับ ได้แก่
Crawl Ability : โครงสร้างของเว็บไซต์ที่เอื้อต่อการเก็บข้อมูลของ Search Engine
Site Volume : จำนวนหน้าภายในเว็บไซต์ (Index)
Site Theme : ลิงก์เชื่อมโยงเนื้อหาภายในเว็บไซต์
Text Match : การเลือกใช้คำที่เกี่ยวข้องกับ Keyword ตลอดจนคุณภาพและปริมาณของเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ Keyword
ปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานของผู้ใช้ (User Experience (UX)) เช่น
PageSpeed : ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์
Mobile friendly : เว็บไซต์ใช้งานได้ง่ายบนโทรศัพท์มือถือและรองรับขนาดหน้าจอที่มีขนาดแตกต่างกัน (Responsive Web Design)
ปัจจัยภายนอก (Off-page / Macro)
ปัจจัยจากภายนอกนั้นคือ Backlinks หรือลิงค์จากเว็บไซต์อื่น โดยอาจเป็นลิงค์ที่ผู้อื่นสร้างให้เว็บไซต์ของเรา หรือลิงค์ที่เราสร้างด้วยตัวเราเอง เช่น การไปลงบทความในเว็บไซต์อื่น การลงทะเบียนเว็บไซต์ในสารบัญเว็บไซต์ ซึ่งปัจจัยภายนอกนี้สามารถแบ่งได้เป็น
Link Popularity : ปริมาณ Backlinks ที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของเรา
Site Theme : คุณภาพของเนื้อหาและ Backlinks ที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของเรา
การเลือก Keyword ที่ใช้สำหรับการค้นหา
- เลือก Keyword ให้ตรงกับธุรกิจมากที่สุดหรือเลือกให้ตรงกับจุดประสงค์ของเว็บไซต์ที่ตั้งไว้ ไม่ควรเลือกคำที่กว้างจนเกินไป จะทำให้ดึงกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ตรงกับความต้องการของเราเข้ามา
- เลือก Keyword ที่มีการค้นหามาก คำต้องมีการค้นหาเฉลี่ยต่อเดือน ประมาณ 250-300 เป็นอย่างน้อย
- เลือก Keyword ที่มีคู่แข่งน้อย อย่างเช่นในคำบางคำอาจมีเว็บไซต์อื่นใช้หรืออาจมีการซื้อคำนั้นๆ ถ้าหากมีคู่แข่งเยอะควรหลีกเลี่ยงโดยเพิ่มคำให้ยาวขึ้นโดยสอดดคล้องกับธุรกิจ เพื่อที่จะนำคำเหล่านั้นไปใช้ได้ผลยิ่งขึ้น
ตัวอย่างการเลือก Keyword
จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าการเพิ่มคำหรือการเพิ่ม Keyword ขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้ผลการค้นหาลดลง ซึ่งจะส่งผลต่อเว็บไซต์ของเรามากในการเพิ่มโอกาสเรื่องของการค้นหาที่อาจจะเจอหน้าเว็บไซต์ของเรา
การที่จะทำเว็บไซต์เว็บไซต์หนึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ง่าย เพราะในการทำต้องแข่งขันกับการซื้อโฆษณาที่เป็น (SEM) และต้องทำให้เว็บไซต์ติดอันดับต้นๆ ของการค้นหาที่จะเจอเว็บไซต์ของเรา เราจึงต้องรู้จักว่าการทำ SEO เขาทำกันอย่างไร
SEO ย่อมาจาก “Search Engine Optimization” คือ การทำหน้าเว็บไซต์ให้ติดอับดับต้นๆ ของการSearch Engine โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อโฆษณาซึ่งเป็นการปรับแต่งหน้าเว็บไซต์รวมไปถึงการเขียนเนื้อหาให้มีคุณภาพ เพื่อเพิ่มโอกาสการแข่งขันในการค้นหาที่จะเจอเว็บไซต์ของเรา และทำให้เกิดการคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์ที่เพิ่มขึ้น
ตัวอย่างการค้นหา
SEO จะแสดงหน้าเว็บไซต์รองจากการโฆษณา(SEM) ซึ่งถ้าเกิดมีการชื้อโฆษณาเยอะจะทำให้หน้าเว็บไซต์ของเราอาจค้นหาไม่เจอ และจากตัวอย่างเบื้องต้น จะเห็นได้ว่าคำในการค้นหาประมาณ 441,000,000 รายการ เป็นจำนวนที่เยอะมาก ดังนั้นการปรับแต่งหน้าเว็บไซต์และเนื้อหาในการเขียนก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หน้าเว็บไซต์ติดอันดับต้นๆได้
จำไว้แค่ว่า การจะใส่คีย์เวิร์ดนั้นต้องใส่ในตำแหน่ง Title, Meta Description, ย่อหน้าแรกของบทความ, Save ไฟล์ภาพเป็นชื่อ Keywords และค่าเฉลี่ยความยาวของบทความควรมากกว่า 1,500 คำ เป็นต้น